ประสบการณ์การเรียนในโรงเรียนที่ญี่ปุ่นของฉัน

ฉันเลือกเรียนที่นี่หลังจากค้นหาข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับโรงเรียน เช่น ชั้นเรียนที่เปิดสอน (EJU, N1) สภาพแวดล้อมนานาชาติ โอกาสที่จะได้พบปะผู้คนมากมายจากทั่วโลก และหอพักของโรงเรียน ในฐานะนักเรียนที่ผ่านระดับ N3 มาแล้วก่อนที่จะมาญี่ปุ่น ชั้นเรียนแรกของฉันที่โรงเรียนสอนภาษาคือ "ชั้นเรียนระดับกลาง" ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องเรียนในชั้นเรียนระดับเริ่มต้นอีก เมื่อฉันได้รับเลือกให้เรียนชั้นเรียนระดับกลาง-สูง ฉันมีโอกาสเลือกชั้นเรียนวิชาเลือกในวันพุธและวันศุกร์ ฉันหวังว่าจะได้เข้ามหาวิทยาลัยในญี่ปุ่น ชั้นเรียน EJU จึงตรงกับความคาดหวังของฉันมาก อาจารย์ที่นั่นคอยช่วยเหลือฉันเสมอ ไม่เพียงแค่ในบทเรียนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงชีวิตประจำวันในญี่ปุ่นด้วย

ระหว่างที่ฉันเรียนที่โรงเรียนสอนภาษา มีงานกิจกรรมบางอย่างที่นักเรียนสามารถสัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นได้ ในเทศกาลทานาบาตะจะมีการประดับต้นไผ่ และเมื่อมีงานกิจกรรมพิเศษในญี่ปุ่น อาจารย์จะอธิบายเกี่ยวกับงานกิจกรรมเหล่านี้ในชั้นเรียน นอกจากนี้ยังมีประสบการณ์การชงชาญี่ปุ่น ประสบการณ์การเต้นรำแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น ประสบการณ์การพับกระดาษโอริงามิ และประสบการณ์เข้าชมพิพิธภัณฑ์ญี่ปุ่นอีกด้วย

ทักษะทางภาษา

ฉันพยายามพูดคุยกับเจ้าของภาษาอยู่เสมอเพื่อพัฒนาทักษะภาษาญี่ปุ่น เพื่อที่ฉันจะได้พัฒนาทักษะการพูดของฉัน ฉันเคยเขียนตัวอักษรคันจิเมื่อมีเวลาเพื่อท่องจำ วิธีที่ฉันพัฒนาตัวเองคือพยายามพูดคุยกับเจ้าของภาษาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หากทำได้ การเรียนรู้วัฒนธรรมต่างๆ จะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการพัฒนาทักษะทางภาษา ครั้งหนึ่งฉันหาเส้นทางรถไฟที่สถานีชินจูกุไม่เจอ (ตอนที่ฉันเพิ่งมาญี่ปุ่น) มีผู้หญิงคนหนึ่งที่ใจดีมาช่วยฉัน และเราคุยกันสักพัก หลังจากนั้นไม่กี่วัน ฉันก็ได้พบกับผู้หญิงคนเดิมและรู้สึกดีใจมากที่ได้เจอเธอ แม้แต่ในตอนนั้น ฉันยังมีโอกาสฝึกภาษาญี่ปุ่นกับเจ้าของภาษาด้วย ดังนั้นฉันคิดว่าการพูดคุยกับคนญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการพัฒนาทักษะเช่นกัน

ทำงานพาร์ตไทม์

ฉันทำพาร์ตไทม์ 2 งานระหว่างเรียน งานหนึ่งเป็นร้านสะดวกซื้อ อีกงานเป็นร้านอาหารปลาปักเป้า (Fugu) ชีวิตในญี่ปุ่นช่วงแรกค่อนข้างยากสำหรับฉัน เพราะตอนแรกฉันไม่รู้จะหางานพาร์ตไทม์ยังไง และไม่กล้าพูดภาษาญี่ปุ่น คุณครูที่โรงเรียนช่วยฉันหางานพาร์ตไทม์ (ร้านสะดวกซื้อที่อยู่ใกล้โรงเรียน) ให้ฉันก่อน หลังจากนั้น ฉันก็อยากลองสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ไม่ใช่ร้านสะดวกซื้อ ต่อมาฉันก็เจอโฆษณาในอินเทอร์เน็ต และเริ่มทำงานพาร์ตไทม์อีกงานที่ร้านปลาปักเป้า

สำหรับฉันแล้ว การหาสมดุลระหว่างการเรียนและการทำงานนอกเวลาเป็นเรื่องยากมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อฉันกำลังอ่านหนังสือเพื่อเตรียมสอบ EJU นอกจากนี้ ฉันไม่ได้เป็นนักเรียนจากประเทศที่ใช้ตัวอักษรคันจิ ดังนั้น สถานการณ์จึงค่อนข้างยากลำบาก ท้ายที่สุด ฉันคิดว่าฉันสามารถจัดการทั้งสองอย่างได้ เพราะฉันได้รับเลือกเข้ามหาวิทยาลัยในฝัน นั่นก็คือ Tokyo University of Foreign Studies